
ที่งาน Pixel Fall Launch ซึ่งจัดโดยกูเกิล พวกเขาได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงแบบใหม่อย่างเช่น Pixel 6 และก็ Pixel 6 Pro เป็นระเบียบแล้ว เน้นย้ำที่สเปกแรง อุปกรณ์รักษาโลก แล้วก็ยืนยันการซัพพอร์ตนาน 5 ปี
อย่างที่ทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้กูเกิล (Google) ไม่ได้ปิดบังใดๆ เกี่ยวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของพวกเขาประจำปี 2021 มากนัก โดยเรารู้จักกันไปแล้วว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมีชื่อว่า Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เพียงแต่ว่าในงาน Pixel Fall Launch ได้ออกมาพูดถึงข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม
กูเกิล พยายามบอกว่า Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพวกเขาในธุรกิจสมาร์ทโฟน โดยสิ่งแรกที่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การพัฒนาชิปเซตของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Tensor ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ และจะเรียนรู้การใช้งานจากเจ้าของเครื่อง ในด้านประสิทธิภาพในการประมวลผล Tensor จะดีกว่า Pixel 5 มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์
Pixel 6 จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรต 90Hz แต่ถ้าเป็น Pixel 6 Pro จะมีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ และรองรับรีเฟรชที่ 120Hz
ในเรื่องของกล้อง Pixel 6 และ Pixel 6 Pro อัดแน่นด้วยกล้องที่ใช้เซนเซอร์ขนาด 50 ล้านพิกเซล โดยกูเกิลอ้างว่า เซนเซอร์กล้องตัวใหม่ที่ว่านี้ จะสามารถจับแสงได้มากกว่า Pixel 5 มากถึง 150 เปอร์เซ็นต์ ภายในของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำให้ Portrait Mode สมบูรณ์แบบ สามารถเรนเดอร์โทนสีผิวได้ดีกว่าเดิม การถ่ายภาพจะยังมีความคมชัด ไม่เบลอ แม้จะเป็นการถ่ายภาพขณะที่เคลื่อนไหวก็ตาม เนื่องจากกูเกิลมีสิ่งที่เรียกว่า Face Unblur ซึ่งจะมีการบันทึกภาพเป็นจำนวนมากด้วยการกดชัตเตอร์ในแต่ละครั้ง เพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดที่สุด
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Magic Eraser เพื่อลบคนในภาพที่เราไม่ต้องการออกจากภาพ และยังมี Motion Mode ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพแอคชัน และ long exposure ให้ได้มาด้วยความสวยงามของภาพ เช่น ภาพจากไฟรถยนต์ยามค่ำคืน เป็นต้น
Pixel 6 และ Pixel 6 Pro จะมีเลนส์อัลตราไวด์เหมือนกันที่ 12 ล้านพิกเซล แต่ความแตกต่างของสองรุ่นนี้อยู่ตรงที่ Pixel 6 Pro จะเพิ่มกล้องเทเลเข้ามา ซึ่งมีความละเอียดที่ 48 ล้านพิกเซล และเรื่องของกล้องหน้า โดยที่ Pixel 6 จะมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 84 องศา แต่ Pixel 6 Pro จะเป็นกล้อง 11 ล้านพิกเซล มุมกว้างกว่าที่ 94 องศา
ในด้านการออกแบบ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro สามารถกันน้ำ-กันฝุ่น ตามค่ามาตรฐาน IP68 มีการใช้วัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการป้องกันรอยขีดข่วนของตัวเครื่อง เพื่อไม่ให้เจ้าของเครื่องต้องรำคาญใจเวลาที่เห็นมือถือของตัวเองเป็นรอยจากสถานการณ์ต่างๆ
สุดท้ายเป็นเรื่องของการการันตีแพตช์ด้านความปลอดภัย โดยในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กูเกิลจะมีการดูแลด้านซอฟต์แวร์ความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน Pixel 6 และ Pixel 6 Pro นานถึง 5 ปีด้วยกัน และจะได้ไปต่อในระบบปฏิบัติการ Android รุ่นใหม่ๆ ถึง 4 เวอร์ชัน
โดยสรุปก็คือ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro จะได้ Android เวอร์ชันใหม่จนถึงปี 2025 หรือก็คือ Android 16 และได้อัปเดตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยจนถึงปี 2026
ทั้งนี้ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro จะเริ่มต้นด้วยระบบG2GBETปฏิบัติการ Android 12 จากโรงงาน พร้อมกับ Material You ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Android 12
สำหรับการวางจำหน่ายของ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro จะเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนที่จะเริ่มส่งมอบในวันที่ 28 ต.ค. ราคาเริ่มของ Pixel 6 อยู่ที่ 599 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,000 บาท) รวมทั้ง Pixel 6 Pro แพงขึ้นมาหน่อยที่ 899 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,000 บาท)
Be the first to comment