
โรงกลั่น บัฟฟาโล เทรซ อยู่ที่เมืองแฟรงค์ฟอร์ท (Frankfort) เมืองเคนตั๊กกี้ (Kentucky) ดินแดนที่เบอร์เบิ้น ผู้ครอบครองเป็น บริษัท แซซซะแรค (Sazerac Company) ที่มีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์อยู่ใต้ชายคาหลายประเภท ได้ซื้อโรงกลั่นที่นี้มาในปี 1992
บัฟฟาโล เทรซ ถือเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์โรงกลั่น ผ่านการเรียกชื่อมาหลายชื่อ เช่น จอร์จ ที.สทักก์ (George T. Stagg Distillery) และ โอลด์ ไฟร์ คอปเปอร์ หรือ โอ.เอฟ.ซี. (Old Fire Copper (O.F.C.) Distillery) ขณะที่ชื่อของเบอร์เบิ้น Buffalo Trace Kentucky Straight Bourbon whiskey ปรากฏอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 1999
ที่สำคัญเป็นโรงกลั่นที่ดำเนินกิจการการกลั่นมาอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐ ขณะที่ชื่อ Buffalo Trace อ้างถึง ควายป่าโบราณ ที่หากินอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเคนตั๊กกี้ (Kentucky River) ในแฟรงค์ลิน เคาน์ตี้ (Franklin County) รัฐเคนตั๊กกี้ (Kentucky) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการกลั่น ผ่านการกรองตามธรรมชาติโดยชั้นของหินปูน
ในช่วงที่ใช้ชื่อ George T. Stagg Distillery ได้รับการขึ้นชื่อให้เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2001 จนวันที่ 11 มีนาคม 2013 ได้รับคัดเลือกให้เป็น National Historic SLOTXO Landmark จากหลักฐานที่ค้นพบระบุว่า Buffalo Trace Distillery จุดประกายโดยสองญาติพี่น้อง แฮนค็อก ลี (Hancock Lee) และก็ วิลลิส ลี (Willis Lee) ในปี คริสต์ศักราช1775 แต่ว่าพวกเขาเสียชีวิตไปซะก่อน ในปีถัดมา จนกระทั่งปี 1812 การลงหลักปักเสาสร้างโรงกลั่นเป็นตัวเป็นตนมาเกิดขึ้นโดย แฮริสัน แบลนตัน (Harrison Blanton) โน่นเป็นเริ่มนับหนึ่งหยดแรกของผู้กระทำลั่น
Be the first to comment