
iPhone 13 Pro และก็ iPhone 13 Pro Max นอกเหนือจากที่จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีชิพที่เร็วที่สุด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น ยังมาพร้อมระบบกล้องสุดล้ำระดับโปรที่ไม่เคยมีมาก่อนใน iPhone ด้วยกล้องคู่ที่ล้ำหน้าที่สุด จอภาพ Super Retina XDR แบบใหม่หมดพร้อมด้วย ProMotion ซึ่งมีอัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้สูงสุด 120Hz รวมไปถึงการมีกล้องอัลตร้าไวด์ พร้อมออโต้โฟกัส ซึ่งทำให้สามารถถ่ายภาพมาโครได้เลย และกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ ที่ซูมแบบออปติคัลได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ไม่ว่าจะถ่ายภาพในที่มืดหรือสว่างก็ให้ภาพที่สวยงามชัดเจนได้
เซ็นเซอร์และเลนส์ใหม่สำหรับกล้องหลังทั้ง 3 ตัว ปรับแต่งมาอย่างลงตัวให้ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกับ iOS 15 โดยมีโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพ (ISP) ใหม่ใน “ชิป A15 Bionic” กล้องไวด์แบบใหม่หมดมีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นด้วยพิกเซลขนาด 1.9 µm มาพร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ซึ่งกว้างยิ่งกว่าเดิม จึงมีนอยซ์น้อยลงและมีความไวชัตเตอร์เร็วขึ้น เหมาะสำหรับทุกสภาพแสง และเผยให้เห็นรายละเอียดในภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบออโต้โฟกัสใหม่ที่มีประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยดียิ่งขึ้นถึง 92% ทำให้ภาพสว่างมากขึ้นและยังคมชัดยิ่งขึ้นด้วย
ระบบกล้องระดับโปรใหม่นี้มาพร้อมความสามารถXOSLOTในการถ่ายภาพที่โปรยิ่งขึ้น อย่างการซูมด้วยเทเลโฟโต้ที่ดียิ่งขึ้น การถ่ายภาพมาโคร สไตล์ภาพถ่าย “โหมดภาพยนตร์” ที่จะเปลี่ยนมิติระยะชัดลึกอย่างสวยงาม รวมถึงวิดีโอ ProRes และ Dolby Vision ถ่ายวิดีโอแบบมาโคร ไทม์แลปส์ และสโลว์โมชั่น แล้วยังถ่ายวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดี พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ใหม่ช่วยให้ช็อตต่างๆ นิ่ง ต่อให้เวลาถ่ายมือจะไม่นิ่ง
เป็นครั้งแรกที่โหมดกลางคืนใช้งานได้กับกล้องทุกตัวบน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max รวมถึงกล้องเทเลโฟโต้ และยิ่งมี HDR อัจฉริยะ 4 ด้วยแล้ว ไม่ว่าถ่ายอะไรก็จะสังเกตเห็นสีสัน คอนทราสต์ และการจัดแสงที่ดียิ่งขึ้น แม้แต่กับภาพหมู่หรืออยู่ในสภาวะที่แสงไม่ดี ทำให้ภาพที่ได้มีความสมจริงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ยังมีคุณสมบัติยอดนิยม อย่าง Deep Fusion, Apple ProRAW และก็โหมดรูปถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟ็กต์การจัดแสงสว่างรูปถ่ายบุคคล รวมทั้งความล้ำหน้าของการประมวลรูปถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์อีกด้วย
Be the first to comment